Detail page : toddler

28 ต.ค. 2552 เวลา 16:20:33
เลี้ยงลูกชายให้เป็นสุภาพบุรุษ ลูกสาวให้เป็นสุภาพสตรี

หนึ่งในความกังวลใจอันดับต้นๆของพ่อแม่ในสังคมยุคนี้ ที่ได้ยินบ่อยๆ โดยเฉพาะสำหรับพ่อแม่ของลูกสาวลูกชายวัย 6-9 ขวบ ซึ่งเป็นวัยที่กำลังแสดงออกถึงความเป็นตัวตนของตัวเองอย่างชัดเจน คงหนีไม่พ้นความกังวลว่าลูกจะเกิดการเบี่ยงเบนทางเพศหรือไม่ เพราะสมัยนี้ชายไม่จริงหญิงไม่แท้มีให้เห็นมากขึ้นทุกวัน แล้วพ่อแม่อย่างเราๆจะเลี้ยงดูลูกกันอย่างไร จึงจะมั่นใจได้ว่าลูกชายจะเติบโตเป็นสุภาพบุรุษ ลูกสาวจะเติบโตเป็นสุภาพสตรี ได้อย่างเหมาะสม

 

ยุคสมัยเปลี่ยน  คำจำกัดความของ “สุภาพสตรี สุภาพบุรุษ” จึงเปลี่ยนไป 
 ยุคสมัยนี้ดูเหมือนว่าจะทำให้การแสดงออกของลูกสาวและลูกชายต่างไปจากเดิม  ลูกสาวหลายคนชอบที่จะซอยผมสั้นดูทะมัดทะแมงแทนการไว้ผมเปีย รวบหางม้า  ชอบที่จะใส่กางเกงมากกว่ากระโปรง  ลูกสาวหันมาเล่นฟุตบอล เทคควันโด  ส่วนลูกชายหลายคนก็ไว้ผมรากไทรเคลียบ่า และดูไม่แปลกหากเขาจะชอบเข้าครัวทำกับข้าว  คงจะเป็นเพราะผู้ใหญ่รอบตัว สังคมรอบด้าน ทำให้การแต่งเนื้อแต่งตัว  รวมทั้งความสนใจกว้างขวางขึ้น   
   ลูกสาวลูกชายที่จะเป็นสุภาพสตรีสุภาพบุรุษในยุคนี้  แม้จะมีความเป็นตัวของตัวเอง  แต่ยังต้องคงความน่ารักสมกับเพศของตน เด็กหญิงแม้จะพูดจาฉะฉาน  กล้าแสดงออก  แต่ก็ต้องไหว้สวย พูดเพราะ ไม่ตะโกนโหวกเหวก จะลุกจะนั่งเรียบร้อย  ส่วนลูกชายก็ต้องอดทน ทำผิดแล้วกล้ารับผิด  ไม่ชี้บ่นขี้อ้อน  ไม่รังแกใครโดยเฉพาะเด็กผู้หญิง ส่วนเรื่องของความสนใจ ความถนัด และความสามารถไม่ใช่เรื่องที่จะถูกสกัด หรือตีกรอบไว้เฉพาะเพศเสียแล้ว   เป็นเรื่องดีเสียอีกที่ลูกหญิงลูกชายของเราทำอะไรได้ตั้งหลายอย่าง  นอกเหนือไปจากสิ่งที่สังคมคาดหวังจากเพศของเขาแล้ว  ลูกชายมาดแมนทำกับข้าวอร่อย  จัดดอกไม้ได้สวย  อย่างนี้มีเสน่ห์ออกนะคะ  ส่วนลูกสาวหน้าหวาน  จับค้อนตอกตะปูได้ไม่ต้องง้องอนใคร

 

สิ่งแวดล้อมมีอิทธิพลกับการพัฒนาและการสร้างลักษณะความเป็นตัวตนของลูก
  สิ่งแวดล้อมใกล้ๆตัวมีอิทธิพลต่อการพัฒนาลูกตั้งแต่แรกเกิด และจะมีผลอย่างมากในวัย 3-9 ขวบ  ทั้งพ่อและแม่จึงมีอิทธิพลอย่างยิ่งต่อการเป็นแบบอย่างของลูกโดยเฉพาะในเรื่องของความเป็นสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี  คุณพ่อควรมีเวลามากพอที่จะเข้ามาใกล้ชิดและทำกิจกรรมกับลูกๆ อย่าปล่อยให้การเลี้ยงดูลูกเป็นเรื่องของแม่เพียงคนเดียว 
 อยากให้ลูกเรียนรู้ว่าเป็นสุภาพสตรีเป็นอย่างไร  คุณแม่ก็จะต้องสุภาพ  พูดเพราะ ดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของทุกคนในบ้าน  และดูแลการงานในบ้านให้เรียบร้อย  อยากให้ลูกเรียนรู้ว่าสุภาพบุรุษเป็นอย่างไร  คุณพ่อก็ต้องแสดงให้เห็นว่าคุณพ่อพร้อมที่จะปกป้องดูแลครอบครัว สร้างความมั่นคงและปลอดภัย  รับผิดชอบงานที่ต้องใช้ความแข็งแรง จึงไม่น่าแปลกใจที่พ่อของลูกจะเป็นคนที่ทำงานหนัก  รับภาระยกเข้าของ ล้างรถ ซ่อมแซมบ้าน  สิ่งที่จะเป็นอันตรายต่อจิตใจของลูกและทำให้พฤติกรรมของลูกเบี่ยงเบนไป คือ การใช้อำนาจและความรุนแรงในครอบครัว ไม่ว่าจะโดยพ่อตัวแทนของเพศชาย หรือแม่ตัวแทนของเพศหญิง
   ดังนั้นควรสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีรอบๆตัวลูก ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ บรรยากาศ รวมถึงผู้คนที่อยู่ใกล้ชิดกับลูก เด็กในวัยนี้ต้องการแบบอย่างที่ดีและเหมาะสม บทบาทและพฤติกรรมของพ่อแม่ รวมทั้งการชี้นำสำหรับการปฏิบัติตัวของลูก ไม่ว่าจะเป็นการเล่น การแต่งตัว การปฏิบัติตัวและการอยู่ร่วมกับผู้อื่น  สิ่งเหล่านี้ย่อมมีอิทธิพลต่อการสร้างความเป็นตัวตนของลูกทั้งสิ้น และหากทุกๆครอบครัวช่วยกันดูแลตรงนี้ได้ เด็กๆก็คงจะเติบโตได้อย่าง สมเพศ สมวัย เป็นสุภาพบุรุษ สุภาพสตรี ตัวน้อย ตามที่ใครๆก็คงจะคาดหวัง  นอกจากนี้ยังช่วยลดปัญหาของเด็กที่มีลักษณะที่ดูคล้ายๆจะเบี่ยงเบนทางเพศไปได้ในระดับหนึ่งด้วย
 หากลูกเริ่มฉายแววว่าจะเป็นลูกชายไม่จริง ลูกหญิงไม่แท้ จะเลี้ยงอย่างไรดี
  พอลูกย่างเข้าสู่ วัย 6 – 9 ปี หากลูกสาวออกแนวห้าว บู๊ บอย  ลูกชายออกแนวนุ่มนิ่ม มีจริตสาว ใจคนเป็นพ่อเป็นแม่คงกลุ้มทีเดียว  ก่อนอื่นเลยค่ะ ไตร่ตรองและสังเกตให้ดีว่าเป็นพฤติกรรมภายนอกเพียงผิวเผินที่เกิดจากการเลียนแบบคนใกล้ชิดหรือไม่  ในบ้านมีเหตุการณ์ใดที่อาจส่งผลต่อพฤติกรรมของลูกหรือไม่ เช่น พ่อทำร้ายแม่ ลูกสาวเลยไม่อยากอ่อนแอเหมือนแม่  หรือสิ่งที่เห็นนั้นเป็นเพราะลูกเป็นชายไม่จริง หญิงไม่แท้ โดยกำเนิด

 

ทำความเข้าใจเกี่ยวกับลูกชายไม่จริง ลูกหญิงไม่แท้กันก่อน
โดยทั่วไปลักษณะการเบี่ยงเบนทางเพศตามหลักวิชาการจะจัดแบ่งเป็น 5 ประเภท
2 ประเภทแรกจะบอกได้จากพฤติกรรมทางเพศเมื่ออยู่ในวัยผู้ใหญ่  ได้แก่
รวมเพศ (Bisexual) เป็นพวกที่รักได้ทั้ง 2 เพศ แต่พฤติกรรมทางเพศเด่นไปทางใด       ทางหนึ่ง
รักร่วมเพศ (Homosexual) เป็นพวกที่มีความสุขทางเพศกับคนที่เป็นเพศเดียวกัน
3 ประเภทหลังนี้จะพบได้ตั้งแต่ยังอยู่ในวัยเด็ก และจะชัดเจนขึ้นเรื่อยจนเป็นลักษณะถาวรเมื่อเข้าสู่วัยรุ่น  ได้แก่
กะเทย (Hermaprodite) กลุ่มนี้เป็นพวกที่มีความผิดปกติทางร่างกายจริงๆ มีลักษณะของอวัยวะเพศที่ก้ำกึ่งกำกวมอยู่ในคนเดียวกัน
ลักเพศ (Transvestite) เป็นกลุ่มที่มีลักษณะบ่งชี้เพศทางร่างกายเป็นปกติ แต่มีความสุขกับการได้สวมใส่เสื้อผ้าเครื่องใช้ของเพศตรงข้าม
เปลี่ยนเพศ (Transsexual)เป็นกลุ่มที่มีลักษณะบ่งชี้เพศทางร่างกายที่ชัดเจน แต่มีจิตใจและความรู้สึกภายในว่าตนเองเป็นเพศตรงข้าม

 

การเบี่ยงเบนทางเพศที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด  
การเบี่ยงเบนเหล่านี้ยังไม่มีคำตอบของสาเหตุที่ชัดเจน แต่จากการศึกษาวิจัยล่าสุดยืนยัน
ว่าเกิดจากความผิดปกติของการพัฒนาโครงสร้าง“Hard-wired”ของสมองส่วนไฮโปทาลามัส (Hypothalamus) ซึ่งทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางของระบบประสาทอัตโนมัติ และสร้างฮอร์โมนเพื่อควบคุมการผลิตฮอร์โมนจากต่อมใต้สมอง ทำให้เกิดการปรับเปลี่ยนของฮอร์โมนตั้งแต่ตอนที่ทารกกำลังพัฒนาและเติบโตในครรภ์มารดาในระยะแรกๆ
  แม้ว่าการยอมรับจะไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับคุณพ่อคุณแม่ และการหาคนผิดก็ไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง เพราะการเบี่ยงเบนนี้เกิดขึ้นเองจากภายในตั้งแต่การตั้งครรภ์โดยที่ยังไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร  ดังนั้น จึงไม่ใช่ความผิดของใครไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อคุณแม่หรือตัวเด็กเองลูกไม่ได้เลือกที่จะเกิดมาผิดเพศ แต่มันเกิดมาจากภายในที่ยังไม่มีใครสามารถควบคุมได้...นอกจากสมอง

 


รับมืออย่างไรหากลูกไม่ใช่ชายจริง  และไม่ใช่หญิงแท้ 
 สำหรับครอบครัวที่มีลูกอยู่ในข่ายของการเบี่ยงเบนทางเพศ สิ่งที่สำคัญที่สุดที่พ่อแม่ต้องเข้าใจว่า เราไม่สามารถเปลี่ยนลูกได้ แต่เราสามารถดูแลการแสดงออกที่เหมาะสมของลูกได้ ว่าเขาควรแสดงออกอย่างไร ปฏิบัติตัวอย่างไร พ่อแม่จะต้องเป็นที่พึ่งพึงทางใจที่อบอุ่นของลูก เพราะเขายังจะต้องเผชิญกับปัญหา กับการไม่เข้าใจ กับการไม่ยอมรับของสังคมบางกลุ่มอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้   หากไม่สามารถรับมือกับปัญหาเหล่านี้ได้โดยลำพัง การไปพบผู้เชี่ยวชาญก็เป็นทางเลือกหนึ่งนอกจากจะต้องเลือกผู้เชี่ยวชาญที่มีความเข้าใจที่ถูกต้องแล้วยังต้องเลือกที่ลูกมีความสบายใจที่จะไปพบกับท่านผู้นั้นด้วย  เพราะจะต้องพบกันในระยะยาว 
 ต้องทำให้ลูกมั่นใจว่าพ่อและแม่รักลูกเสมอไม่ว่าลูกจะเป็นอย่างไร การดูแลลูกอย่างใกล้ชิดด้วยความเข้าใจ  การให้กำลังใจ และคำแนะนำที่เหมาะสม พยายาม  สร้างความเข้าใจกับคนรอบข้างไม่ว่าจะเป็นที่บ้านหรือโรงเรียน สิ่งเหล่านี้จะช่วยบรรเทาให้พฤติกรรมเหล่านั้นให้เบาบางลง และเด็กสามารถแสดงออกได้อย่างเหมาะสมมากขึ้น แต่ต้องไม่ลืมว่าเราจะต้องไม่กดดันและเปลี่ยนแปลงลูกให้กลับมาเติบโตตามเพศที่เกิดมา   อย่างไรก็ตามคุณพ่อคุณแม่ก็ยังต้องช่วยให้ลูกมีจิตใจที่เข้มแข็ง ในการเตรียมตัวเตรียมใจที่อาจจะต้องพบกับความใจแคบ การไม่ยอมรับหรือปฎิกริยาที่ไม่น่ารักต่างๆ ซึ่งเราไม่สามารถที่จะควบคุมได้ 


  
 เด็กๆทุกคนมีความต้องการที่เหมือนกันหมดคือ ต้องการความรักและความเข้าใจจากคุณพ่อคุณแม่ ความรักของพ่อแม่ที่มีต่อลูกอย่างที่ลูกเป็น ความรักของพ่อแม่ที่ไม่มีเงื่อนไข ความรักของพ่อแม่ที่ไม่มีวันหมดอายุ และพร้อมที่จะเป็นที่พึ่งพิงให้แก่ลูกได้ตลอดเวลา  ความรักที่บริสุทธ์ของพ่อแม่คือใบเบิกทางสู่การเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี เป็นสุภาพบุรุษ สุภาพสตรี ที่มีค่าของสังคมต่อไป ไม่ว่าเขาจะเป็นลูกชาย ลูกสาว หรือลูกชายไม่จริง ลูกหญิงไม่แท้ก็ตาม
 

Last Column : toddler

หนึ่งในความกังวลใจอันดับต้นๆของพ่อแม่ในสังคมยุคนี้ ที่ได้ยินบ่อยๆ โดยเฉพาะสำหรับพ่อแม่ของลูกสาวลูกชายวัย 6-9 ขวบ ซึ่งเป็นวัยที่กำลั...
  ด้วยกระแสรณรงค์เรื่องสุขภาพที่มีการพูดถึงกันอย่างมากมาย โดยเฉพาะในกรณีของเด็กที่มีน้ำหนักตัวเกินพิกัด ส่งผลให้บรรดาพ่อแม...
THE BIG Question Should you treat your toddler like a dog? ฝึกวินัยให้กับลูกวัยเตาะแตะ เหมือนที่ฝึกกับสุนัขได้หรือไม่? ผ...
แต่ดั้งเดิมนั้นบรรดาผู้ใหญ่มีความเชื่อว่าเด็กเปรียบเสมือนแจกันว่างเปล่าซึ่งรอเวลาคนมาจัดแต่งเป็นรูปร่างขึ้นมา ซึ่งฟังเสมือนกับหนูเป...
1