Detail page : toddler

31 ก.ค. 2553 เวลา 17:41:11
พาลูกไปโชว์ออฟ..แน่ใจรึว่าคุณพร้อมแล้ว?

  พ่อแม่คนไหนๆ ก็เห่อลูกสุดเลิฟ พอหนูอายุไม่กี่เดือนก็อยากพาไปอวดใครต่อใคร ผู้เขียนเคยเห็นพ่อแม่บางคนเอาลูกแบเบาะตัวแดงๆ อายุไม่ถึงเดือนไปเดินศูนย์การค้าอย่างภาคภูมิใจ แต่ถ้าอยากจะโชว์ออฟลูกแสนน่ารักก็ขอให้คิดสักนิดว่า ลูกตัวน้อยตัวนิดพร้อมแล้วหรือไรที่จะออกไปสู่โลกกว้าง? ถ้าหนูยังเล็กเกินไปและหมดภูมิคุ้มกันจากท้องแม่และอาจติดเชื้อโรคได้ง่าย พาไปสังสรรค์แค่ในหมู่ญาติมิตรพอรับได้ แต่อย่าเพิ่งพาหนูออกไปเจอคนมากมายก่ายกองในงานปาร์ตี้หรือศูนย์การค้าเลยนะขอร้อง..
    สำหรับลูกวัยเตาะแตะที่เดินเองได้แล้ว การพาลูกออกไปนอกบ้านไม่ใช่เรื่องต้องห้าม แต่อาจเป็นทั้งเรื่องน่าสนุกและอันตราย ดังนั้นพ่อแม่ควรเตรียมใจในการรับมือกับความว้าวุ่น ขุ่นเคือง นอกเหนือจากความรื่นรมย์ โดยเฉพาะการพาลูกไปกินข้าวนอกบ้าน ขอให้ลืมอดีตอันหวานชื่นที่คุณสองคนเคยสบตากลางแสงเทียนสุดโนแมนติกไปเลย เพราะในวันนี้ลูกอายุขวบสองขวบเป็นบุคคลที่สามผู้อยู่ไม่สุข เล่นหลอดดูด ปัดน้ำหก ใช้ส้อมเขี่ยผักไปกองร้อง “ยี้” มือหยิบอาหารในจานปาลงพื้น ถ้าโต๊ะในร้านวางติดกันมากๆ ลูกก็หันไปจิกผมคนนั่งโต๊ะข้างๆ เด็กวัยโตอีกนิดชอบมุดเล่นใต้โต๊ะ เอาผ้าเช็ดปากคลุมหัวซ่อนแอบเล่นจ๊ะเอ๋กับโต๊ะข้างๆ (ที่มากันสองหนุ่มสาวหวังคุยกระหนุงกระหนิงแต่ลูกคุณกำลังทำให้เขารำคาญ) ขณะพ่อแม่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ว่าลูกชั้นน่ารัก
    คุณต้องรู้จักตัวเอง อย่าฟังจากปากคำคนอื่น ตอนป้ากับลุงผู้เห่อหลานวัยเจ็ดเดือนกลับมาเล่าว่า “ใครๆ ก็ชอบเด็กเล็ก เข้ามาหยอกเล่น คนเสิร์ฟให้เรานั่งโต๊ะดีที่สุดเลยหละ” แต่พอคุณพาลูกไปร้านนี้ก็พบว่าโต๊ะดีที่สุดคือขั้วโลกเหนือห่างไกลจากผู้คนอื่นเพราะร้านไม่อยากให้เด็กรบกวนแขก ฉะนั้นความคิดที่คนหนึ่งเห็นว่าดีเลิศอาจเป็นความกังวลคนอื่นได้ พ่อแม่ต้องรู้จักตัวเองและลูก ถ้าลูกยังไม่เก่งพอจะออกแขกและอาจทำให้คุณรู้สึกแย่อับอายขรยหน้า โปรดรอให้หนูโตอีกนิดเถิดหนา
    ข้อควรคำนึงอีกประการคือ อย่าเหมาว่ามนุษย์ทุกคนจะรักเด็ก คุณอาจโชคดีเข้าไปในร้านที่คนเสิร์ฟมาอุ้มลูกพาไปดูโน่นดูนี่ให้คุณได้กินอาหารหมดจาน แต่ความเป็นไปได้คือคุณต้องนั่งปลอบลูกผู้ตื่นคน ตื่นสถานที่ ตื่นอาหารรสแปลกจนพานร้องโยเยหนวกหูชาวบ้านชนิดเพลงในร้านกลบไม่อยู่ ดังนั้นถ้าลูกเป็นตัวก่อกวนความสงบเมื่อใด โปรดพาหนูออกมาดีกว่าทรมานให้ลูกต้องทนอยู่ในที่ไม่คุ้นและไม่ชอบ อีกทั้งไม่ยุติธรรมกับแขกในร้านที่เสียเงินมากินบรรยากาศร้านสงบ ไม่ใช่บรรยากาศโรงเรียนอนุบาลเด็กร้องกระจองอแง
    เมื่อไหร่ถึงจะพาลูกไปกินข้าวนอกบ้านได้ ? ก็เมื่อลูกเรียนรู้มารยาทในโต๊ะอาหาร หลังจากพ่อแม่พร่ำสอนปากเปียกปากแฉะให้หนูรู้จักใช้ช้อนส้อม ไม่วางศอกพาดโต๊ะ ไม่ซดอาหารโฮกฮาก ไม่ตักอาหารเรี่ยราดหกหล่น คุณอาจสอนลูกวัยสองขวบให้นั่งนิ่งได้แต่หนูจะยังไม่ซึมซาบอีกหลายเรื่องๆ พออายุหกขวบไปแล้วหนูจะรู้มารยาทขั้นพื้นฐานมากขึ้น ไม่ถึงขั้นเนี้ยบ สิ่งสำคัญคือวิธีการที่ไม่รบกวนคนอื่นทั้งที่บ้านและข้างนอก ให้นึกถึงแม่ปูกับลูกปู พ่อแม่คือตัวอย่างที่ดีให้ลูกกระทำตาม ควรหาเวลาร่วมโต๊ะอาหารพร้อมหน้ากันในครอบครัวอย่างน้อยวันละมื้อ ลูกต้องเข้าใจว่าถ้าเคาะโต๊ะเขี่ยหารเล่นจะโดนทำโทษอดของหวาน แต่อย่าเอ็ดเป็นเรื่องใหญ่ แค่บอกลูกไว้เท่านั้น
    สร้างประสบการณ์น่ารื่นรมย์ให้กับลูกในการออกไปกินอาหารนอกบ้านโดยโทรไปถามที่ร้านให้แน่ใจ อย่าโกรธถ้าโดนปฏิเสธเพราะคุณจะโกรธมากขึ้นถ้าหอบลูกเข้าไปแล้วได้รับบริการแย่ๆไม่น่าประทับใจ เช็ครายการอาหารล่วงหน้า ถามไถ่ว่าจะปรุงตามความต้องการได้หรือไม่ ถ้าลูกไม่ชอบซีอิ๊วในก๋วยเตี๋ยวราดหน้าก็ขอให้เขาไม่ใส่ อย่าไปบังคับลูกให้กินตามร้านปรุง ให้หนูได้กินของอร่อยตามใจสักครั้ง ควรถามด้วยว่าทางร้านใช้เวลาปรุงอาหารชนิดนั้นนานแค่ไหน คุณคงไม่อยากให้ลูกวิ่งพล่านนานเป็นชั่วโมงในร้านอาหารแน่ๆ อาหารบุฟเฟต์อาจเหมาะกับทั้งครอบครัวเพราะเลือกได้ตามใจชอบตักเลยไม่ต้องรอ แต่ควรสอนลูกให้ตักแต่พอกิน
    เลือกเวลาพาลูกไปกินอาหารที่ร้านในเวลาที่ไม่ใช่ชั่วโมงเร่งด่วน เช่นตอนเที่ยงซึ่งลูกค้าแน่นร้าน ไปตอนสิบเอ็ดโมงที่คนบางตา ลูกจะไม่ตื่นสถานที่เมื่อเจอผู้คนมากมายและไม่จำเป็นต้องให้ลูกแต่งตัวเริ่ดเป็นพิเศษแล้วคอยห้ามกลัวเสื้อเปื้อน ให้หนูเลือกชุดโปรดตามสบายเพราะการกินอาหารนอกบ้านควรเป็นความบันเทิง พกของขบเคี้ยวถุงเล็กปด้วยเผื่อรอการปรุงอาหารหรืออาหารไม่ถูกใจขนมจะช่วยประทังโมโหหิวของเด็กได้ เด็กที่หิวมักอาละวาดไม่ยั้ง ฉะนั้นถ้าลูกหิวมากรออาหารที่สั่งไม่ไหว ให้ขอขนมปังรองท้องมาขบเคี้ยวก่อน อย่าคิดฝึกมารยาทลูกตอนหิวเพราะไม่สำเร็จหรอก นอกจากนี้พ่อแม่ควรชวนคนเสิร์ฟพูดคุยเพื่อให้ลูกเห็นตัวอย่างการพูดจาสุภาพกับผู้อื่นในที่สาธารณะ
    การได้ออกไปนอกบ้านกับพ่อแม่ทำให้เด็กประพฤติตัวดี แต่ความตื่นเต้นกับสิ่งแปลกใหม่ที่กรายมาทุกวินาทีนี่สิที่ทำให้หนูสมาธิหนูกระเจิงได้ ดังนั้นถ้าลูกทำท่ากระสับกระส่ายอยู่ไม่สุขขึ้นมาให้อนุญาตให้เดินเล่นรอบโต๊ะได้ แต่ถ้าหนูแสดงออกด้วยการพ่นอาหาร เขี่ยอาหารลงพื้น ให้บอกลูกว่าจะกลับบ้านทันทีถ้ายังทำเช่นนี้อยู่ ขณะเดียวกันให้เอ่ยปากชมลูกมากๆเวลาหนูใช้ช้อนส้อมตักอาหารเองได้ดี หรือถ้าลูกถามว่า “หนูเก่งไหม?” โปรดชมไม่ยั้งเพราะเด็กเล็กเด็กโตบ้ายอเหมือนกันหมด
    สารภาพมาซะดีๆว่าคุณพ่อคุณแม่เองก็ยังเป็นงี้เหมือนกันไม่ใช่เรอะ?
               
 

Last Column : toddler

เด็กๆ ที่บ้านมักจะชอบวางอุปกรณ์เครื่องเขียนเกลื่อนเต็มโต๊ะไปหมด  หากมีกล่องใส่อุปกรณ์เหล่านี้บนโต๊ะไว้สักกล่องสองกล่อง ก็น่าจะ...
ไม่ต้องไปคิดถึงคุณน้าแอนเจลินา โจลีที่รับลูกมาเลี้ยงเป็นโขยงแถมลูกตัวเองรวมครึ่งโหล หรือเจ๊มาดอนนาที่มีลูกตัวอยู่คนเดียวแล้วก็ขอรับ...
หนึ่งในความกังวลใจอันดับต้นๆของพ่อแม่ในสังคมยุคนี้ ที่ได้ยินบ่อยๆ โดยเฉพาะสำหรับพ่อแม่ของลูกสาวลูกชายวัย 6-9 ขวบ ซึ่งเป็นวัยที่กำลั...
  ด้วยกระแสรณรงค์เรื่องสุขภาพที่มีการพูดถึงกันอย่างมากมาย โดยเฉพาะในกรณีของเด็กที่มีน้ำหนักตัวเกินพิกัด ส่งผลให้บรรดาพ่อแม...
THE BIG Question Should you treat your toddler like a dog? ฝึกวินัยให้กับลูกวัยเตาะแตะ เหมือนที่ฝึกกับสุนัขได้หรือไม่? ผ...
แต่ดั้งเดิมนั้นบรรดาผู้ใหญ่มีความเชื่อว่าเด็กเปรียบเสมือนแจกันว่างเปล่าซึ่งรอเวลาคนมาจัดแต่งเป็นรูปร่างขึ้นมา ซึ่งฟังเสมือนกับหนูเป...
1