Detail page : family_law

07 ม.ค. 2554 เวลา 12:12:12
ศึกแย่งลูก

Q : ผมและภรรยาแยกกันอยู่เกือบ 2 ปีแล้ว แต่เรายังไม่ได้จดทะเบียนหย่ากัน โดยลูกชายอายุ 7 ขวบ อยู่กับภรรยาที่บ้านแม่ยาย ส่วนผมจะไปเยี่ยมลูกทุกวันอาทิตย์  ส่วนมีผู้หญิงคนอื่นซึ่งเราอยู่ในขั้นที่ดูใจกันอยู่  และเมื่อภรรยาทราบเรื่องนี้ เธอโกรธมากและไม่ให้มาเยี่ยมลูกอีก
    สำหรับผมกับภรรยาโอกาสที่เรากลับมาคืนดีกันนั้นคงเป็นไปไม่ได้ ที่ผ่านมามีเรื่องมากมายทำให้เราตัดสินใจแยกกันอยู่ แต่เพราะลูกเราจึงยังไม่หย่ากันเด็ดขาด เพราะผมคิดว่าลูกต้องมีพ่อ หากหย่ากันภรรยาผมเรียกร้องเงินมากเกินกว่าที่ผมจะให้ได้ ใจจริงผมต้องการให้ลูกมาอยู่ด้วย เพราะผมเองก็พร้อมในทุกๆ อย่างที่จะดูแลลูก  ทำสำคัญผมทราบภรรยามักจะดุว่าลูกอยู่เสมอ  และบางครั้งตีลูกประชดผม คุณแม่ของผมไปพูดคุยขอลูกจากภรรยาและแม่ยาย โดยยินดีให้เขามาเยี่ยมและรับลูกไปค้างเป็นบางครั้งได้ด้วย นอกจากเธอจะไม่ยอมแล้วยังด่าว่าผมและแม่เสียๆ หายๆ อีกด้วย 
    ผมจึงอยากทราบว่า  ถ้าผมจะบุกเข้าไปเอาลูกมาจากบ้านภรรยานั้น ผมควรจะทำหรือไม่ และการที่พ่อเข้าไปเอาลูกมามีความผิดอะไรหรือไม่  และเรื่องนี้ผมสามารถที่เอาฟ้องศาลเพื่อขอหย่ากับภรรยาได้หรือไม่ครับ


   
A :   ปัญหาในลักษณะดังกล่าวในสังคมมีอยู่มากมายครับ  เพราะต่างคนต่างก็อยากจะมีสิทธิในตัวบุตรอยากเอาบุตรมาเลี้ยงเสียเอง แต่ลืมคิดไปว่าคนที่เจ็บปวดมากที่สุดคงจะหนีไม่พ้นลูกของตัวเอง  ซึ่งเขาคงไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องรับรู้เรื่องราวระหว่างพ่อแม่หรือผู้ใหญ่ที่มีปัญหากัน  สำหรับปัญหาของคุณที่ส่งมานั้น  เท่าที่ผมดูคิดว่าก็น่าจะยากอยู่เหมือนกันที่จะให้พ่อแม่หวลกลับมาคืนดีกัน  และสิ่งที่คุณถามผม เรื่องที่จะบุเข้าไปพาตัวลูกมาจากบ้านแม่ของเขานั้น  อันนี้ผมไม่แน่ะนำให้ทำครับ  เพราะยิ่งจะก่อปัญหาอื่นตามมาอีกมายมาย  ที่สำคัญหากแม่เขาไม่ยอม คุณอาจจะมีความผิดฐานบุกรุก  และถ้าการแจ้งความดำเนินคดีก็ทำจะทำให้เกิดเป็นเรื่องราวใหญ่โตขึ้นมาเสริมอีกเรื่องยิ่งจะเกิดการต่อต้านมากขึ้นอีก ดูแล้วไม่เป็นผลดีทั้งพ่อและ แม่เลย  และคงไม่ดีอย่างยิ่งในความรู้สึกของลูก เราควรระมัดระวังใส่ใจให้มาก เพราะถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อนจะก่อปัญหาให้กับเขาได้
    ส่วนเรื่องที่จะฟ้องร้องต่อศาล อันนี้เป็นสิทธิ์ของคุณที่สามารถจะฟ้องร้องเพื่อขอหย่าขาดจากภรรยาและเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองบุตรได้  แต่ตามข้อเท็จจริงดูแล้วฝ่ายพ่อจะเสียเปรียบมาก  เนื่องจากคุณกำลังจะไปมีหญิงอื่น  แตกต่างจากภริยาซึ่งยังไม่มีชายอื่น  ซึ่งกรณีนี้ถือว่าคุณกำลังมีชู้  เมื่อฝ่ายหญิงรู้เขามีสิทธิ์ที่จะฟ้องหย่าคุณและขอใช้อำนาจปกครองบุตรดีกว่าคุณ  แถมยังจะก่อปัญหาให้กับหญิงที่คุณกำลังดูใจอยู่ด้วย  เพราะหากฝ่ายภรรยาคุณเกิดฟ้องคุณ และอาจจะเรียกร้องค่าเสียหายจากหญิงที่คุณกำลังดูใจที่เข้ามาเป็นชู้ได้ครับ  เพราะหากมีการฟ้องร้องกันขึ้น ศาลจะคำนึงถึงตัวเด็กและอนาตตของเด็กว่าอยู่กับฝ่ายใดจะมีอนาคต มีความอบอุ่น ที่ดีกว่า  แต่ดูตามข้อเท็จจริงที่คุณให้มาแล้วพ่อเสียเปรียบมากเลยครับ  ฟ้องไปก็มีแต่จะเข้าตัวเอง ลองหาวิธีอื่นที่ทำให้เราสามารถยังพาลูกไปไหนมาไหนได้จะดีกว่าครับ

Last Column : family_law

  Q : ดิฉันกับสามีแต่งงานจดทะเบียนสมรสและมีลูกด้วยกัน 2 คน ตอนนี้เรากำลังจะหย่ากันเพราะมีปัญหาครอบครัวที่ไม่สามารถตกล...
Q : ดิฉันแต่งงานมีลูก และหย่ากับสามีตั้งแต่อายุ 17 ปี ในปี พ.ศ. 2521 ดิฉันได้ซื้อที่ดินแปลงหนึ่ง ใส่ชื่อและนามสกุลเดิมของดิฉัน ...
    เป็นที่ทราบกันอย่างทั่วถึงแล้วว่าครับว่า วันที่ 9 กรกฏาคม 2554  คุณพ่อคุณแม่หรือผู้ปกครอง ที่มีบุตรหลา...
คำถาม     ผมกับภรรยาแต่งงานกันได้ 1 ปี โดยที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน และตอนนี้เรายังไม่มีลูกด้วยกันครับ ส่วนภร...
Q :     ดิฉันหย่ากับสามีโดยคำสั่งศาลเมื่อปลายปีที่ผ่านมาค่ะ  โดยศาลได้ระบุเอาไว้สามีจะต้องจ่ายค่าเลี้ยงด...
Q : ดิฉันแต่งงานกับสามีโดยผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบ  และได้จดทะเบียนสมรสกันถูกต้องตามกฏหมาย แต่หลังจากที่แต่งงานกันได้ 2 ปีดิฉ...
Q :     เมื่อปีที่แล้วดิฉันได้ฟ้องหย่าสามี  และศาลได้มีคำพิพากษาให้เราหย่ากันเมื่อประมาวันที่ 20 ตุลาคม ...
  Q : ดิฉันกับสามีแต่งงานกันมาประมาณ 2 ปีแล้วค่ะ  ก่อนหน้านี้เราไม่ได้จดทะเบียนกัน เพราะดิฉันเองก็ไม่ได้ซีเรียสเ...
Q : ดิฉันแต่งงานกับสามีมาได้ 4 ปี มีลูกด้วยกัน 2 คน ก่อนหน้านี้ครอบครัวเราก็อยู่กันปกติสุขดี แต่เมื่อต้นปีที่ผ่านดิฉันทราบว่าสามีสน...
    ผมเชื่อว่าที่ผ่านมาหลายๆ คนคงจะได้ยินข่าวเรื่องของการตรวจหรือไม่ตรวจ DNA ของคนนั้นคนนี้ก็มากมาย ผมก็เป็นคนห...
1  2  3  Next